วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple) เมือง คยองจู (Gyeongju)

วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple) เมือง คย็องจู (Gyeongju)
ยุคทองของศิลปะทางพุทธศาสนาในอาณาจักรชิลลา

วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)

คำว่า “พุลกุกซา” นั้น หมายถึง ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 528 ปีที่พุทธศาสนาได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดยราชวงศ์ชิลลา (Silla) ปัจจุบันตั้งอยู่ในเมือง คย็องจู หรือ เคียงจู (Gyeongju) ของจังหวัดคย็องซังเหนือ (คย็องซังบุกโด, Gyeongsangbuk-do) และได้รับการบันทึกจาก องค์การ UNESCO ในปีค.ศ.1995ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม

กด Subscribe รวมคลิปท่องเที่ยวช่อง YouTube ลุงเด้ง ป้าไก่ กินเที่ยวทั่วโลก ได้ที่นี่

ทริปนี้ ลุงเด้งป้าไก่ เดินทางจาก ปูซาน มายัง เมือง คย็องจู หรือ เคียงจู (Gyeongju) ด้วยรถไฟ Korail Mugunghwa

การเดินทาง จาก ปูซาน ไป เมือง เมือง คย็องจู หรือ เคียงจู เริ่มต้นที่สถานี Centum Station โดยมีสถานีปลายทางที่ สถานี Gyeongju ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง

ทุกครั้งที่ เที่ยวปูซาน ลุงเด้งป้าไก่ เลือกที่จะพักริมทะเล แฮอุนแด (Haeundae) มีโรงแรมดีๆ ร้านอาหารดีๆ ราคาไม่แพงอยู่เยอะมาก และเป็นต้นสายรถเมล์สาย 31 ที่ วิ่งผ่านสถานี Centum Station

จากปูซาน ใช้เวลาในการเดินทาง 1.45 ชั่วโมง เราก็มาถึง สถานี Gyeongju เมือง คย็องจู หรือ เคียงจู

สถานี Gyeongju เมือง คย็องจู หรือ เคียงจู มี Tourist Information เราจะไปไหนเข้าไปขอข้อมูลได้เลย สถานที่ท่องเที่ยวที่ ลุงเด้ง ป้าไก่ จะเดินทางไปคือ วัด Bulguksa Temple / วัดถ้ำซอคคูรัม Seokguram Grotto / สะพานโบราณ Woljeonggyo Bridge

Bulguksa Temple คือสถานที่แห่งแรกที่เราจะเดินทาง ขึ้นรถเมล์สาย 10 / 11 / 700 จุดขึ้นรถอยู่ตรงข้าม สถานี Gyeongju จุดขึ้นรถเมล์ https://goo.gl/maps/i3TtmzvDgYL2

ตัวอย่างเส้นทางเดินรถสาย 11 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่งโมง 15 นาที แนะนำเปิด Google Map ตามไปด้วยเลยครับ ลงป้าย Bulguksa แล้วเดินต่ออีก 10 นาที

ทางเข้าวัดก็มี Tourist information นะครับ เข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย หรือเอกสารเกี่ยวกับ วัดพุลกุกซา ก็มีให้เช่นกัน

ลุงเด้งป้าไก่ มาช่วงปลายกุมภาพันธ์ ใบไม้ร่วงหมดแล้ว… ถ้าเพื่อนๆ มาช่วง เมษายน หรือ ตุลาคม บอกเลยว่าสวยมาก

จากถนนใหญ่ เดินประมาณ 10-15 นาที ก็จะถึงหน้าวัด … บอกกันตรงนี้ก่อนเลยว่า ไม่ต้องรีบเดิน เดี๋ยวจะหอบ เพราะทางเดินจะชันขึ้นทีละนิด ๆ ๆ ดูเหมือนไม่เหนื่อย แต่หอบเลยจ้า 555

วัดพุลกุกซา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 น. จนถึง 17.00 น. มีค่าเข้าชมคนละ 5000 วอน

iljumun gate

Bulguksa Temple (불국사) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 528 รัชสมัยพระเจ้าพ็อบฮึง (Beopheung) ตามพระประสงค์ของพระมารดา ยองเจ (Yeongje) และ พระราชินี คียุน (Queen Gi Yun) ซึ่งคำว่า พุลกุกซา (Bulguksa)” แปลว่า “วัดแห่งพระพุทธเจ้า”

ปี ค.ศ. 574 วัดแห่งนี้ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่โดย Lady Jiso พระมารดาของกษัตริย์จินฮึง (Jinheung) พร้อมกับการสร้าง พระไวโรจนพุทธะ และพระอมิตาภพุทธะ วัดแห่งนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตั้งแต่อาณาจักรชิลลา เรื่อยมาจนถึง ราชวงศ์โชซอน

วัดพุลกุกซาถูกทำลาย : ในช่วง สงครามญี่ปุ่นบุกเกาหลี ที่เรียกว่าสงครามอิมจิน ระหว่างปี ค.ศ.1592 – 1598 ญี่ปุ่นได้เผาวัดแห่งนี้จนเกิดความเสียหายอย่างหนักอาคารไม้ถูกไฟเผาจนสิ้น เหลือเพียงแต่ สะพานบันได และ เจดีย์ที่ทำขึ้นมาจากอิฐจึงไม่เสียหายมากนัก

ปีแห่งการบูรณะ : ปี ค.ศ. 1963 ทางรัฐบาล รวบรวมนักโบราณคดีศึกษารูปแบบสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม และในปี ค.ศ. 1969-1973 ประธานาธิบดีปาร์คจุงฮีอนุมัติงบประมาณในการบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นใหม่ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ด้านหน้าของวัดจะมีสระน้ำแห่งปัญญา และ สะพานหิน Haetalgyo ทอดยาวข้ามมาสู่ประตูเทพพิทักษ์ที่มีอยู่ 4 ด้าน

Cheonwangmun Gate : ประตูเทพพิทักษ์ เป็นที่ประทับของ ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่

ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ เทวดาที่รักษาทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกไว้ทั้ง 4 ทิศ และทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่มนุษย์โลกทั้งหลาย

เทพพิทักษ์ หรือ คนไทยเรียกกันว่า ท้าวจตุโลกบาล ทำหน้าที่ ขับไล่ภูติ ผี ปีศาจ ไม่ให้มาทำร้ายพุทธศาสนิกชน และพระภิกษุ รวมถึงเป็นผู้พิทักษ์เด็กเล็ก ให้รอดพันจากพลังอันชั่วร้าย

เดินมาถึงแล้วครับ … ในภาพ บันไดหิน มีชื่อเรียกกันว่า บันไดเมฆคราม (Cheongungyo) และ บันไดเมฆขาว (Baekungyo) มีทั้งหมด 33 ขั้น เป็นบันไดหลักเชื่อมต่อไปยังโบสถ์ Daeungjeon Hall

สาเหตุที่ บันไดมีทั้งหมด 33 ขั้น … มีความเชื่อกันว่า สวรรค์ชั้นที่ 33 เป็นดินแดนของพุทธภูมิ ในความหมายว่า หากเรามีความมุ่งมั่น และ ศรัทธา ไม่ยากที่จะค้นพบดินแดนของพุทธภูมิ

บริเวณลานกว้างของ วัดพุลกุกซา จะมีเจดีย์หินที่สำคัญ 2 องค์ เจดีย์ช็อกกาทับ “Seokgatap” (ทางซ้าย) และ เจดีย์ดาโบทับ “Dabotab” (ทางขวา) สร้างขึ้นราวปีค.ศ. 756 ถือว่าเป็น เจดีย์ที่งามที่สุดของอาณาจักรซิลลาหนึ่งในสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้

เจดีย์ช็อกกาทับ “Seokgatap” สูง 8.3 เมตร เป็นเสมือนความแข็งแรงของผู้ชาย เรียบง่าย สง่างาม เป็นสัญลักษณ์ของวิญญาณในอดีตตามคำสอนของพระศรีศากยะมุนี ซึ่งเป็นเจดีย์ตามประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธ

เจดีย์ดาโบทับ “Dabotab” สูง 10.5เมตร แสดงถึง ความอ่อนโยนของผู้หญิง เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง สมบูรณ์ บางคนเรียกว่า “เจดีย์มหาสมบัติ” ซึ่งเจดีย์นี้ยังปรากฏอยู่ใน เหรียญเงินราคา 10 วอนของเกาหลีใต้

มาถึงแล้วก็อย่าลืมมาขอพรกันนะครับ!!!

ก่อนกลับ ต้องไม่ลืม มาลูบ หมูทองเหลือง ที่ตั้งอยู่หน้า Geungnakjeon Hall (극락전) นะครับ เพราะเชื่อกันว่าจะนำสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเรา

วัดแห่งนี้ยังเป็น “วิทยาลัยพระพุทธศาสนา” ที่สำคัญในประเทศเกาหลีใต้

มุมถ่ายรูป… ขอพรแล้ว ก็ต้องมาถ่ายรูปกัน ที่วัดนี้ก็มีมุมให้ถ่ายรูปกันพอสมควรครับ

จบ วัดพุลกุกซา ลุงเด้ง ป้าไก่ นั่ง TAXI ราคา ไม่เกิน 10,000 วอน (300 บาท) ต่อไปยัง วัดถ้ำซอคคูรัม ( Seoguram Grotto) ซึ่งก็เป็นหนึ่งในมรดกโลก แห่งสหประชาชาติหรือ UNESCO ติดตามรีวิว วัดถ้ำซอคคูรัม

มรดกโลก
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNESCO ได้ทราบถึงและยอมรับในลักษณะเด่นที่น่าสนใจของวัฒนธรรมเกาหลี โดยการจัดสถานที่และทรัพย์สมบัติของชาติเกาหลีประเภทอื่นๆ ไว้ในรายชื่อมรดกโลก ในปีค.ศ. 1995 UNESCO ได้เพิ่มวัดพุลกุกซา และวัดถ้ำซอคคูรัม ที่อยู่ในจังหวัดคยองจู วัดแฮอินซา ในจังหวัดคยองซังนัมโด ศาลเจ้าชงเมียว เทวสถานที่เป็นที่บูชาเหล่าบรรพบุรุษเกาหลีแต่โบราณ ในกรุงโซล