รีวิว : เที่ยวเกาะเชจู เกาหลีใต้ (Winter in Jeju 2015)
สวัสดีคะ วันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลุงเด้ง ป้าไก่ พาทีมงาน Hong Kong Fan Club / Singapore Fan Club และ Korea Fan Club ไปตะลุยเกาะเชจูกันมา ได้ข่าวมาว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยมากติดอันดับต้น ๆ ของเกาหลี ทริปนี้จึงได้เกิดขึ้น ทั้งหมดทีมงานและผู้ติดตามกรุ๊ปนี้จำนวน 39 คนคะ
เรานัดพบกันเวลา 23:30 น. ซึ่งเป็นเวลานอนของใครหลาย ๆ คน ถึงเวลานัดก็มากันอย่างพร้อมเพรียง ทะยอย Check In ที่ Row L และช๊อปปิ้งกันตามอัธยาศัย ก่อนเวลา Boarding ตอนตี 2 และนี่ก็คือโฉมหน้าทีมงานผู้ร่วมเดินทางไปด้วยกันบางส่วนคะ
ตี 2 กว่า ๆ ก็ได้เวลา Boarding โดยสายการบิน East Star Jet เที่ยวบิน ZE552 ออกเดินทางเวลา 02:30 น. และถึงเกาะเชจูเวลา 09:00 น. ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง
บรรยากาศภายในเครื่องคะ สภาพภายในไม่ใหม่และก็ไม่เก่าจนเกินไป
เครื่องบินเป็น Boeing 737-800 ที่นั่งแบ่งเป็น 3 3 มีทางเดินตรงกลาง
พื้นที่ระหว่างที่นั่งแต่ละแถว (Seat Pitch) ค่อนข้างแคบ คนขายาว ๆ อาจจะนั่งไม่สบายเท่าไหร่ แต่ถ้าขึ้นเครื่องแล้วหลับไปเลยก็พอไหว สำหรับคนที่นอนไม่ค่อยหลับ อาจจะรู้สึกอึดอัดได้คะ ถ้าใครได้นั่งแถวหน้า หรือแถวประตูฉุกเฉินก็ค่อนข้างสบาย
บนเที่ยวบินนี้จะเสริฟเป็นขนมปังกับน้ำผลไม้นะคะ เนื่องจากไฟล์ตนี้เป็นไฟล์ตดึกมากแล้ว ส่วนใหญ่ก็หลับกันหมด ส่วนน้ำที่เป็นแก้วจะเสริฟเรื่อย ๆ หรือสามารถขอเพิ่มได้คะ
ถึงเชจูตามกำหนดการ เสียดายที่ไม่มีงวงช้างเดินเข้าอาคาร สำหรับผู้สูงอายุอาจจะไม่ชอบ เพราะต้องเดินลงบันไดเพื่อนั่งรถต่อเข้าไปในอาคาร แต่สำหรับลุงเด้ง ป้าไก่ชอบคะ จะได้ถ่ายภาพเครื่องบินแบบใกล้ ๆ
ลงจากเครื่องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยก็มารวมพลกันที่จุดนัดพบ สนามบิน Jeju International Airport เป็นสนามบินที่ใหญ่เป็อันดับ 3 ของเกาหลี
หมายเหตุ : เวลาที่เกาหลีใต้จะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง อย่าลืมปรับเวลาให้ถูกต้องด้วยนะคะ
ก่อนออกจากสนามบินก็ต้องไม่ลืมที่จะต้องแวะเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า แปรงฟันซะหน่อย เพราะออกจากสนามบินแล้วก็จะไปเที่ยวกันเลย กว่าจะเข้าโรงแรมก็ดึกแล้ว และที่ลืมไม่ได้ที่จะต้องงัดอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นต่าง ๆ ทั้งเสื้อหนาว หมวก และร่ม เพราะช่วงเวลาที่ไปเที่ยวนั้น อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 2 – 12 องศา แถมมีฝนอีกด้วย
บรรยากาศภายในรถ พร้อมออกเดินทางคะ
ออกจากสนามบินปุ๊ป ก็พากันไปทานอาหารกันก่อนเลย ร้านนี้อยู่ใกล้ ๆ สนามบิน มื้อนี้เป็นเมนูบีบิมบับ (Bibimbap) หรือข้าวยำเกาหลี กับซุปร้อน ๆ อร่อยดีทีเดียว หรือว่าหิวมากก็ไม่แน่ใจ 555
ข้าวยำนั้นได้คนละ 1 ถ้วย ส่วนซุปที่ใส่หมู และผัก พร้อมทั้งเครื่องเคียงนั้น เติมได้ไม่อั้นคะ
ผู้ร่วมทริปกับอาหารมื้อแรกที่เกาะเจจู Enjoy กันมาก ๆ
อิ่มท้องเรียบร้อย พร้อมเที่ยวแล้ว ที่แรกที่จะไปกันคือภูเขาฮัลลาซาน (Hallasan National Park) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ เ็นภูเขาไฟที่ดับไปนานแล้ว และเป็นต้นกำเนิดของเกาะส่วนใหญ่ในเชจู ภูเขาฮัลลาซานนี้มีความสูง 1,950 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่สงวนเขตชีวมณฑล (UNESCO Biosphere Reserve) และเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ (World Natural Heritage Site) ด้วยคะ
ช่วงที่เราไปยังได้เจอกับหิมะด้วย อากาศบนนี้หนาวมากประมาณ 2 องศาเท่านั้น (15 ก.พ.) แต่เสียดายที่ฝนตกเลยไม่ค่อยได้เล่นหิมะซักเท่าไหร่ รีบ ๆ ถ่ายรูปแล้วก็วิ่งไปหลบฝนกัน พอให้ได้บรรยากาศ
ทั้งลม ทั้งฝน และยังหนาวสุด ๆ ด้วย แต่ก็สู้คะ
สถานที่ต่อไปคือ Hello Kitty Island Jeju เคยไปร้าน Kitty มาก็หลายที่แล้ว ที่เชจูนี่อลังการมากคะ ไม่มาคงไม่ได้ ที่นี่เค้ารวบรวมจัดการแสดงเรื่องรวมของ Hello Kitty หลากหลายเวอร์ชั่น พร้อมเรื่องรวมความเป็นมา มุมถ่ายรูปมากมายจนนับไม่ถ้วน ร้านของที่ระลึก และ Hello Kitty Cafe จิบเครื่องดื่มในบรรยากาศน่ารัก ๆ โลกนี้เป็นสีชมพูจริง ๆ
มาดูภาพรวม ๆ กันก่อน ที่นี่มีทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นพื้นที่ใหญ่มาก มีหลายกิจกรรมเล่นและเพลิดเพลินได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่
เริ่มที่ตรงไหนกันดี เริ่มไม่ถูกเลย 555 ดูในส่วนของมุมถ่ายรูปต่าง ๆ ก่อนแล้วกันนะคะ
ถ่ายรูปเล่นกันสนุกสนาน ถึงคนจะเยอะแต่มุมถ่ายรูปก็เยอะมาก
มาดูผู้สูงอายุกันบ้างคะ ;D คุณพ่อ คุณแม่ ของลุงเด้ง ป้าไก่เอง ^^ Happy สุด ๆ
ห้องนอนของ Kitty
สำรวจห้องน้ำ
จะถ่ายเป็นครอบครัว หรือจะถ่ายเดี่ยวก็น่ารักไปหมด
ส่วนลูกชายคนโต เจอตู้หยอดที่ไหนก็ไม่พลาด แม้แต่ในร้าน Kitty
และที่พลาดไม่ได้ก็คือที่ชั้น 2 Hello Kitty Cafe
คิวซื้อเครื่องดื่มยาวไปนิด ฝากให้สองทะโมนสั่งอาหาร ลุงเด้งป้าไก่ออกไปเก็บภาพด้านนอก กลับเข้ามาในร้านอีกที ทานกันหมดแล้ว ไม่เหลือให้ถ่ายรูปเลย :'(
ในชั้นที่ 3 จะเป็นสวนดาดฟ้า ตอนไปเป็นหน้าหนาวเลยไม่สวยเท่าไหร่ ถ้าไปอีกซัก 2 เดือนคงจะสวยน่าดู
ส่วนตรงนี้จะอยู่ที่ชั้น 2 สำหรับเด็กเล็กไว้ฝึกกล้ามเนื้อคะ
และที่ชั้น 1 ก่อนถึงทางออกจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ใครใจไม่แข็งต้องเสียตังค์ตรงนี้แน่นอน แต่ราคาแรงอยู่เหมือนกัน
ได้เวลาอันสมควรก็ไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ชาโอซุลลอค (O’Sulloc Tea House) ที่นี่เป็นดินแดนที่ปลูกชาเขียวคุณภาพสูง และยังเป็นสถานที่จัดแสดงประวัติและวัฒนธรรมการผลิตชาเขียวหลากหลายชนิด อาทิเช่น เค๊กชาเขียว (อันนี้ห้ามพลาด) ไอติมชาเขียว และยังสามารถซื้อชาเขียวกลับไปชงทานเองที่บ้านได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์มากมายอื่น ๆ เช่นขนม และแผ่นมาร์สหน้าชาเขียว ส่วนด้านนอกจาะเป็นบรรยากาศไรชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ แต่เสียดายวันที่ไปฝนตกแรงมากอดชมไร่ชาเลย
มาชมบรรยากาศในร้านกันคะ ภายในค่อนข้างใหญ่ แต่เสียดายมีโต๊ะน้อยไปหน่อย มีให้ชิมชาฟรีด้วยนะคะ ยังไม่ซื้อก็ไปลองชิมกันก่อน
คิวซื้อเค๊กและเครื่องดื่ม แถวยาวมากแต่ก็รอ ^^
แบ่ง ๆ กันชิมคะ จริง ๆ แล้วร้านนี้มีสาขาทั่วเกาหลีนะคะ ได้รับความนิยมทุกที่ คนแน่นทุกร้าน
สมาชิกร่วมทริป เฮฮาปาร์ตี้สุด ๆ นาน ๆ จะได้เฮฮากันแบบนี้ ปกติคุยกันแต่เรื่องงาน
ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ น่าจับจองกลับบ้านไปฟินกันต่อ
ไปต่อกันที่สวนส้มไร้เมล็ด ที่เกาะเชจูเป็นเพียงที่เดียวในประเทศเกาหลีที่ปลูกส้มได้อร่อยและได้ผลดี ส้มจากเกาะเชจูเป็นสินค้าส่งออกที่โดดเด่นของเกาหลีใต้โดยหน้าหนาวเป็นช่วงที่ส้มเกาะเชจูให้ผลผลิตทั้งสวยและอร่อย ปกติเป็นคนชอบส้มอยู่แล้ว ต้องลองคะ
ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไงก็ต้องเก็บบรรยากาศมาให้ได้
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ วิ่งกลับไปหลบฝน เจอส้มเป็นลัง ๆ รออยู่ให้ลองลิ้มชิมรส ส้มหวานมาก ๆ คะ แถมไม่มีเมล็ดด้วย ปอกส้มไป ทานไป ยืนเม้าส์กันไป เพลินมาก ๆ ซักพักก็ได้เวลาสมควร ติดส้มกลับไปทานโรงแรมอีก 2 ลูก ^^ อยากซื้อกลับมาทานต่อที่ไทยจัง
ไปต่อกันที่วัดซันบังซา (Sanbangsa Temple) มาไหว้พระขอพรกัน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาซันบัง และอยู่ใกล้กับวัดโบมุนซา จากที่จอดรถ เราจะต้องเดินเท้าต่อไปที่พระใหญ่ประมาณ 10 – 15 นาที ระหว่างทางวิวสวยมากคะ
เราสามารถซื้อเทียน ข้าวสาร หรือทำบุุญได้ด้วย ที่วัดมีจำหน่ายคะ
บริเวณวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมหันหน้าออกสู่ทะเล อากาศที่นี่สดชื่นมาก ๆ
ได้เวลาอาหารค่ำกันแล้ว คืนนี้เราทาน โอซัมพุลโกกิ (Osam Bulgogi) เป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของเกาหลี จะมีเนื้อหมูและปลาหมึก ในน้ำซุปปรุงรสออกหวาน ๆ ทานพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ และเครื่องเคียงต่าง ๆ เมนูนี้เติมได้ไม่อั้นเช่นเดิมคะ
หลักฐานความอร่อยของผู้ร่วมทริป
เครื่องเคียงต่าง ๆ เติมกันได้ไม่อั้น ผู้ร่วมทริปพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหมึกเส้นปรุงรสอร่อยมาก
จากนั้นก็เข้าที่พักเวลาประมาณ 21:00 น. 2 คืนที่ Jeju เราพักกันที่นี่คะ Benikea Crystal Hotel
ห้องพักระดับมาตรฐาน 3 ดาว ห้องไม่ใหญ่มาก พื้นเป็น Heater เวลานอนเปิดหน้าต่างแง้ม ๆ ไว้ให้อากาศเย็นเข้ามา หลับสบายเลย
ห้องน้ำสะอาดดีคะ มีอ่างด้วยไว้แช่ขา ที่นี่ไม่มีหมวกคลุมผมนะคะ สาว ๆ เตรียมกันมาด้วยคะ
ตรงข้ามโรงแรมมีร้านมินิมาร์ตด้วย ใครยังไม่อิ่ม หรืออยากทานเพิ่มก็หาได้ใกล้ ๆ โรงแรมนี่แหละ
DAY 02 : ตืนเช้ามากับภาระกิจ 7 8 9 (Walk up call 7 โมง / ทานข้าว 8 โมง / ล้อหมุน 9 โมง) เมื่อคืนยังไม่ได้ถ่ายรูปหน้าโรงแรม มาถ่ายเช้านี้แล้วกัน
อาหารเช้าที่โรงแรม ง่าย ๆ ดีคะ ทานเสร็จอย่าลืมเอาจาน แก้วไปวางที่ที่เค้าเตรียมไว้ด้วยนะคะ เพื่อความเป็นระเบียบ
9 โมงล้อหมุน เราออกเดินทางไปที่ยอดเขา อิลซุงโบล (Songsan Ilchulbong) ที่นี่จะมีปากปล่องภูเขาไฟที่มีลักษณะเหมือนมงกุฎ เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการมาขอพรและชมพระอาทิตย์ขึ้น และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทางธรรมาติของโลกด้วย ข้างบนนี้เราสามารถดื่มด่ำกับท้องฟ้า วิวสวย ๆ ของบ้านเรือนด้านล่าง และสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันคะ
ที่นี่มีรางวัลเป็นประกันคะ ;D
ทานกันมาอิ่ม ๆ ก็ต้องออกกำลังกันอีกแล้ว เรามาเดินขึ้นเขากันคะ
แม่ ๆ ซ่ากันมาก ทำเป็นกระโดด ยังขึ้นไปไม่เท่าไหร่เลย เดี๋ยวได้หอบแน่ ๆ 555
น่าจะมาได้ซักครึ่งทาง วิวเริ่มสวยแล้ว อากาศดีมาก ๆ ลืมบอกไปว่าอุณหภูมิวันนี้อยู่ประมาณ 10 องศา วันนี้โชคดีฝนไม่ตกแล้วคะ
น้อง ๆ ในทริป พักไปถ่ายรูปไป
เดินต่อไปเรื่อย ๆ บอกอีกทีว่าอากาศดีมาก ๆ ออกจะเริ่มเหงื่อออกแล้ว ต้องถอดแจ๊กเก็ตกันแล้วหละ
ใกล้จะถึงความจริงแล้ว ยิ่งสูงวิวยิ่งสวยมาก ๆ
โฉมหน้าผู้พิชิตยอดเขา Songsan Ilchulbong นั่งพักชมวิวให้หายเหนือยซักพักค่อยลงนะ
ทางลงจะเป็นคนละทางกับทางขึ้นนะคะ วิวสวยไม่แพ้กัน
เดินลงเขาชมวิวไปด้วยกันนะคะ
ของจริงสวยกว่าในภาพหลายเท่านะคะ
ด้านล่างที่เห็นไกล ๆ นั้นคือจุดที่แม่บ้านชาวเขจูเค้าจะมาทำการดำน้ำตกหมึกกัน มีจัดเป็นรอบ ๆ ให้ชมกันด้วย
กิจกรรมอื่น ๆ ที่นี่ก็จะมีขี่ม้า และนั่งเรือชมวิวคะ
ราคาค่าเข้าเยี่ยมชมที่นี่ ไม่แพงเลย
พอลงมาถึงด้านล่างก็หิวอีกแล้ว หาขนมทานกันดีกว่า ข้างล่างนี้มีร้านอาหารเยอะแยะเลย
มาติดใจเจ้า Honey Puff ร้านนี้ ซื้อมาชิมดีกว่า ลักษณะเป็นวาฟเฟิลลูก ๆ เหมือนที่ฮ่องกง นำมาม้วนแล้วใส่ใส้ต่าง ๆ จัดมา 1 อันใส้วิปปิ้งครีม ราคาอันละ 5,500 วอน อยากจะบอกว่า …. มันอร่อยมาก ๆ
ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่อไป เป็นทุ่งหญ้ากว้างวิวสวย ๆ ติดทะเล อยู่ทางตะวันออกของเกาะเชจู ที่มีชื่อว่า ซอฟจิโกจิ (Mt.Seopjikoji)
จากจุดจอดรถ เราต้องใช้กำลังขากันอีกแล้วคะ แต่ที่นี้จะ soft กว่าที่ Songsan Ilchulbong เยอะ เพราะที่นี่ไม่ต้องขึ้นเขา แค่เดินไปซึมซับบรรยากาศริมทะเลเท่านั้น
ระหว่างทางมีร้านไอติมด้วย
จากนั้นก็เดินกันต่อ ก่อนจะถึงประภาคาร ด้านซ้ายมือมีทุ่งดอกไม้สีเหลือง ๆ เพิ่งจะเริ่มบาน สวยงามมาก มันคือดอกเรป (Rapeseed) หรือ ดอกยูเช ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำเกาะเชจูคะ
ปกติแล้วดอกเรปนี้จะเริ่มออกดอกประมาณเดือนมีนาคม นี่เพิ่งกลางเดือนกุมภาพันธ์เองได้เจอด้วย
ลงมาจากเขาก็หิวอีก คราวนี้เจอคุณป้า ๆ กำลังปิ้งหมึก กลิ่นหอมโชยมา ไม่ลีลอจัดไป
ราคาหมึกเริ่มตั้งแต่ 8,000 – 10,000 วอน
จากนั้นก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย อาหารกลางวันคะ วันนี้เป็นเมนู พุลโกกิ (Bulgogi) อีกหนึ่งเมนูอร่อย เติมได้ไม่อั้น
อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า
จากนั้นก็เดินย่อย ถ่ายรูปเล็กน้อย
ไปต่อกันที่การแสดงม้า Pony Valley จากนักขี่ม้ามืออาชีพ การแสดงจะเป็นเรื่องเจงกิสข่าน กายกรรมบนหลังมันคะ
ดูกันไปเพลิน ๆ การแสดงใช้เวลาประมาณ 1 ชม.คะ
การแสดงของสาว ๆ และเด็ก ๆ
ต่อกันที่หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอับ เป็นหมู่บ้านที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริง มาชมวิถีชีวิตชาวพื้นเมืองกัน ในหนังเรื่องแดจังกึม เค้าก็มาถ่ายทำที่นี่ด้วย
ชาวบ้านเล่าเรื่องเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย เกี่ยวกับคนโบราณ ต่าง ๆ ฟังแล้วเพลินดี
ทั่วเกาะเชจู จะพบรูปปั้น 2 รูปนี้ชื่อ ฮารูบัง หินเพศชาย – เพศหญิง ดูคล้าย ๆ กัน จะต่างกันตรงระดับของมือ ถ้ามือขวาอยู่สูงกว่าคือเพศชาย และถ้ามือขวาอยู่ต่ำกว่าคือเพศหญิง เชื่อว่าถ้าลูบที่หูของฮารูบังจะขอได้ลูกชาย ถ้าลูบที่จมูกจะขอได้ลูกสาว ใครอยากมีลูกลองอธิฐานดูนะคะ
สถานที่ต่อไปคือโขดหินรูปหัวมังกร หรือ ยงดูอัมร๊อค (Yongdu-am)
ร้านอาหารระหว่างทางเดินไปยังโขดหิน
โขดหินรูปมังกร เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำและคลื่นลมทะเล ลักษณะโขดหินละเหมือนกับมังกรกำลังอ้าปากส่งเสียงร้องเพลง และทะยานจากฟ้าลงสู่ท้องทะเล
อากาศหนาว ๆ ต้องหาอะไรร้อน ๆ ทานซักหน่อยกับของอร่อยริมทาง
อาหารค่ำวันนี้เป็นเมนู คาลบิ (Kalbi) อาหารเกาหลีแบบปิ้งย่าง เป็นหมูต้มมาปิ้งแล้วตัดเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ ทานกับเครื่องเคียงต่าง ๆ เติมได้ไม่อั้นอีกเช่นเคย จากนั้นก็กลับที่พักเวลาประมาณ 20:00 น.
ถึงที่พักเร็ว และคืนสุดท้ายแล้ว เลยขอตลุยราตรีที่เชจูซักหน่อย เดินไปเรื่อย ๆ เข้าแหล่งชุมชน นั่งทานขนมเล่น ๆ ที่ร้าน Mango Six แล้วกัน
DAY 03 : เช้ามาก็แพ็กกระเป๋าเอามาวางไว้ที่ Lobby แล้วขึ้นไปทานอาหารเช้า เช้านี้เข้าช๊อปต่าง ๆ ตามโปรแกรมคือ ศูนย์โสม, ศูนย์สมุนไพรฮ๊อกเกต, ร้านน้ำมันสน, ร้านเครื่องสำอางค์ Midam จากนั้นก็ไปทานอาหารกลางวันกัน กลางวันนี้ทางจิมดัก (Jim Dak) คือ เนื้อไก่ชิ้นโตผัดกับวุ้นเส้นเกาหลีเหนียวนุ่ม น้ำซุปรสชาติเข้ม ทานพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ เมนูนี้เติมได้ทุกอย่างยกเว้นเนื้อไก่
บ่ายเรามาช๊อปปิ้งกันที่ Shilla Duty Free และต่อด้วย Jungang Shopping Mall เป็นแหล่งช๊อปปิ้ง รวมร้านค้าเสื้อผ้า เครื่องประดับมากมาย อยู่ใต้ดิน
เสื้อผ้าแฟชั่น ราคาไม่แพง ก็สามารถหาได้ที่นี่ รวมทั้งเครื่องสำอางค์ดัง ๆ หลายแบรนด์
เดินขึ้นมาที่ Exit 3 เป็นอีกหนึ่งแหล่งช๊อปปิ้งของเกาะเชจู
เดินไปซักพัก เจอร้าน Mr.Pizza ไปนั่งทานพิซซ่าดีกว่า
บรรยากาศในร้าน
ทานกันหลายคนเลยจัดมาหลายถาด ราคาไม่ค่อยแพงประมาณถาดละ 20,000 วอน
ชิ้นใหญ่มาก แป้งบางกรอบ พาสต้าก็อร่อย
ยังมีเวลาเหลือ เดินไปที่ Exit 4 เป็นตลาดปลา เจอโฮต๊อก กับโอเด้ง จัดการเลย ถูกมาก ชิ้นละ 500 วอนเท่านั้น
ตลาดปลาที่เชจู Jeju Dongmun Fisheries Market
กลับไปยังจุดนัดพบ ตรงศาลา Gwandeokjeong
สุดท้ายท้ายสุด ๆ ก่อนไปสนามบิน แวะละลายเงินวอนกันก่อนที่ Supermarket มากมายด้วยขนม ของใช้ เครื่องสำอางค์ ของฝากต่าง ๆ จากนั้นเดินทางไปสนามบิน Jeju International Airport
เช็คอินเวลาประมาณ 20:00 น. บินกลับโดยสายการบิน Eastar Jet เที่ยวบิน ZE551
เตรียมตัวกลับบ้านกันด้วยสัมภาระอันเยอะมากก สายการบินนี้ไม่จำกัดน้ำหนักสัมภาระโหลกใต้ท้องเครื่องนะคะ ช๊อปกันได้เต็มที่เลย
จบแล้วสำหรับทริปเที่ยวเกาะเชจูนี้ ประทับใจเกาะนี้มาก ๆ ธรรมชาติสุด ๆ อากาศดีมาก มีอะไรดีกว่าที่คิดเยอะเลย ทริปนี้ได้มาพักผ่อนกับเพื่อนร่วมงาน ชาร์ตแบ๊ตกับเต็มที่แล้วก็กลับไปลุยงานกันต่อนะ ;D สวัสดีคะ
แหล่งรวมข้อมูลท่องเที่ยวเกาหลี อ่านเพิ่มที่ …
Website : www.koreafanclub.com
Instagram : www.instagram.com/koreafanclub
Fanpage ลุงเด้งป้าไก่ : www.facebook.com/uncledeng
YouTube ช่องท่องเที่ยวโดยลุงเด้งป้าไก่ -> https://goo.gl/SLXeyh